พามาดูเครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ ที่ทรงพลัง ประสิทธิภาพสูงที่สุด 

ตั้งแต่ที่มีโรคโควิด – 19 เกิดขึ้นมา จะออกไปไหนมาไหนก็ต้องใส่แมสก์หรือหน้ากากอนามัย ซึ่งถ้าจะใส่ให้ถูกต้อง ปลอดภัย คือควรเปลี่ยนชิ้นใหม่อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และต้องใช้แล้วทิ้งเท่านั้น ห้ามใช้ซ้ำ นั่นเลยเป็นสาเหตุให้ “หน้ากากผ้า” กลายเป็นทางเลือกที่คนหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ช่วยลดรายจ่ายรายเดือนลงได้มาก และหน่วยงานสาธารณสุขก็เคยประกาศไว้แล้วว่าคนที่ไม่ป่วยสามารถใช้หน้ากากผ้าแทนหน้ากากอนามัยได้ ทำให้ในช่วงปีสองปีมานี้มีคนจำนวนมากที่หารายได้เสริมหรือสร้างรายได้หลักให้ตัวเองด้วยอาชีพใหม่อย่างการขายหน้ากากผ้ากันอย่างล้นหลาม โดยสินค้าก็มีขนาด ลวดลาย วัสดุ และฟังก์ชันที่แตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ สำหรับความสงสัยที่ว่าทำไมใคร ๆ ก็ทำหน้ากากผ้าขายได้นั้น เหตุผลก็เพราะหน้ากากผ้าไม่ได้มีกฎหมายระบุไว้ว่าให้เป็นสินค้าควบคุมเหมือนกับหน้ากากอนามัย ที่จะต้องควบคุมตั้งแต่การผลิต การตั้งราคา การจัดจำหน่าย

ในร่างกายเรานั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอะไรก็ตามแต่ถ้าหากเราดูแลสุขภาพของเราไม่ดีพอ แต่ทุกโรคที่เราเป็นแล้ว ยังไงก็มีทางรักษาให้หายแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นเดียวกันกับโรคลำไส้แปรปรวน รักษาได้ แม้ว่าโรคนี้จะมีโอกาสเป็นแบบเรื้อรังก็ตาม ก่อนที่จะไปรับรู้วีการรักษา เรามาทำความรู้จักกับโรคร้ายนี้กันก่อนดีกว่า โรค Irritable Bowel Syndrome หรือที่เรียกว่า โรคลำไส้แปรปรวน เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร แต่จะเน้นไปที่ลำไส้อย่างเดียว นอกนั้นจะไม่มีความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น  สาเหตุของโรคนี้ในปัจจุบันก็ยังไม่มีสถาบันไหนออกมายืนยันได้ว่าต้นตอของโรคร้ายนี้มาจากสิ่งใด เพราะไม่ว่าจะตรวจเพิ่มเติมตรงไหนก็ไม่มีสิ่งแปลกปลอมให้เกิดโรคนี้ได้ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคนี้นั้นไม่ได้มาจากการทานอาหารอย่างเดียว แต่มาจากความเครียดอีกด้วย ปัจจัยหลักคือการบีบตัวของลำไส้ และความไวต่อสิ่งเร้าของลำไส้ที่มากผิดปกติ เมื่อเราทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วจะไปกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนตัวมากขึ้น ทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย  โรคลำไส้แปรปรวน รักษาได้

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid19 นั้นมีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อภายในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นสูงมากขึ้นอย่างเรื่อย ๆ ไม่มีท่าทีที่จะลดน้อยลงแต่อย่างใด ส่งผลทำให้ภาคเศรษฐกิจและธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในประเทศนั้นเกิดภาวะที่เข้าใกล้สู่ช่วงวิกฤต สภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจนี้ส่งผลให้คนส่วนใหญ่มักจะตกงานขาดรายได้ ทำให้ร้านค้าที่ขายอาหารนั้นปิดตัวลงเนื่องจากเกิดการล็อคดาวเกิดขึ้น ทั้งนี้จึงทำให้ผู้ที่ต้องกักตัวเองเพื่อเฝ้าสังเกตอาการของตนเองอยู่ภายในที่พักอาศัยนั้นเกิดการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่เพิ่มมากขึ้น ยิ่งเมื่อมีผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ Covid19 แล้วทำให้เราต้องเตรียมรับมือการป้องกันและการดูแลผู้ป่วยโรค Covid-19 นั้นต่อไป  อาการของผู้ป่วยโรคโควิด-19  การดูแลตัวเองและการดูแลผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรค Covid-19 นั้นสามารถทำได้เบื้องต้นโดยมีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้คือจะต้องทำการจำกัดขอบเขตการเข้าออกภายในตัวบ้านหรือรั้วบ้านของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปสู่ในที่สาธารณะและควรเว้นระยะห่างหรือ Social distancing ด้วยตนเองอย่างน้อย 1 เมตรขึ้นไป ในส่วนต่อมาจะเป็นส่วนของการนอนหลับพักผ่อนนั้นจำเป็นที่จะต้องแยกห้องนอนไม่ควรนอนร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส Covid-19 ในส่วนของการรับประทานอาหารนั้นถ้าให้ดีก็ควรที่จะทานรับประทานอาหารที่ปรุงเท่านั้น ไม่ควรรับประทานอาหารดิบ ถ้าเป็นไปได้ควรที่จะประกอบอาหารขึ้นมารับประทานเอง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการประกอบอาหารด้วยตนเองนั้น เราสามารถสั่งจาก Delivery ได้ เพียงแต่เราก็จะต้องสวมหน้ากากอนามัยและล้างเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรือรับสินค้าจากการบริการมา ในกรณีที่ตัวเรานั้นจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือแม้ว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นโรค Covid19 นั้นจำเป็นจะต้องดูแลสุขอนามัยอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การทานข้าว การดูแลความสะอาดก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของร่างกายของตัวเรานั้นหรือว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ควรที่จะทำความสะอาดอยู่ทุกครั้งหลังจากการใช้งาน และบริเวณที่สำคัญที่สุดคือห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า หมอนข้าง ก็ควรทำความสะอาดอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการกักเชื้อและการหมักหมมเชื้อโรคนั้นเอง  การดูแลรักษาเมื่อมีอาการ  สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เราจะต้องเฝ้าระวังลักษณะอาการของผู้ป่วยว่าลักษณะการถึงขั้นวิกฤตนั้นเป็นอย่างไร โดยในปัจจุบันนั้นมีหลักเกณฑ์การวิเคราะห์อย่างคร่าว ๆ ก็คือการทำการทดสอบความสามารถในการกลั้นหายใจได้นานเกิน 30 นาทีหรือไม่ หรือสามารถใช้เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดว่าเปอร์เซ็นต์ออกซิเจนนั้นมีอยู่เท่าไหร่ ซึ่งตามมาตรฐานแล้วควรที่จะมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ถึงจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่อันตราย แต่ถ้าทำการเช็คแล้วมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 95 ลงไปให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าผู้ป่วยนั้นอาจมีการติดเชื้อลงไปยังปอดแล้ว ดังนั้นควรรีบไปปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน